วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การสํารองข้อมูล ไดร์เวอร์ backup driver ก่อนลงวินโดว์ใหม่

การสำรองข้อมูลไดร์เวอร์ Backup driver ก่อนลงวินโดว์ใหม่

วิธีการติดตั้งโปรแกรม และ ใช้งานโปรแกรม DriverGeniusProv8
หลังจากที่เราโหลดไปเราจะได้ไฟล์ชื่อว่า DriverGeniusProv8.0.0.316.rar จากนั้นให้เราแตกไฟล์นี้ ก็จะได้โพลเดอร์ DriverGeniusProv8.0.0.316




ให้คลิกที่ setup.exe เพื่อเริ่มการติดตั้ง

จากนั้นก็จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาดังภาพ คลิก Next เลย

จากนั้นติ๊ก I accept the agreement แล้ว next


เลือกที่จะให้ติดตั้งลง Next


มันจะถามชื่อทางลัดที่จะใช้ใน start menu next



ต้องการสร้าง icon ที่ desktop รึเปล่าสร้าง next

 

Install

รอมันลงแป๊ปนึง

 
กด next ติ๊ก launch ด้วยนะ


รอแปปนึงจะมีภาพโปรแกรมโผล่ขึ้นมาแล้วจะมีหน้าต่างนี้เด้งขึ้นมา ให้กด No

จากโปรแกรมก็จะเริ่มทำงาน ให้ปิดหน้าต่าง start scan now ออกโดยคลิก x ที่ด้านบน





การ Register โปรแกรมหรือ ใส่ Key ให้โปรแกรม
จากนั้นเป็นการ ใส่ Key ให้มัน กดที่ Help>Enter Code  หมายเหตุ กรุณาใส่ทุกครั้ง
หลังจากที่ลงเสร็จเพื่อให้โปรแกรมทำงานสมบูรณ์

จากนั้นให้เปิดไฟล์ key.txt ที่ให้ไปตอนแรก แล้วพิมลงตามเลย แล้วกด register

เรียบร้อยการ Crack ใส่ Key ให้ DriverGeniusProv8.0

หลังจากนี้โปรแกรมจะทำการปิดตัวเองอัตโนมัติ
การสำรองไดร์ทเวอร์ BACKUP DRIVER

ให้เปิดโปรแกรมขึ้นมา

กดที่ Backup Driver

รอซักครู่นึงโปรแกรมจะตรวจสอบว่าเครื่องเรามีไดร์เวอร์อะไรบ้าง เลือก 3 อัน แล้ว next

 
กดที่ Browse เพื่อเลือกว่าเราจะเก็บไดร์เวอร์ไว้ที่ไหน


 
จากตัวอย่างผมเลือกลงไดร์ท D: นะ เวลา format เรา format ไดร์ท C:

 
กด Next แล้วรอแปปนึงเพื่อให้มัน copy driver เครื่องเรา



หลังจากที มันดูดเสร็จแล้วกด Finish เลย



การ Restore Drive เอาไดร์เวอร์คืนนั้นเอง

ให้เราเลือกไปที่  Restore Drive นะ


 
จากนั้น Browse หาโพลเดอร์ที่เรา สำรองไว้ แล้วกด next เลย

 
จากนั้นโปรแกรมจะทำการค้นหาไดร์เวอร์ซักครู่ แล้วแสดงผลออกมา ให้คลิกช่องด้านบนสุดเพื่อเลือกทั้งหมด หรือเลือกลงไดร์เวอร์แค่บางอย่างก็ได้



กด Ok


รอแปปนึง โปรแกรมกำลังลง Driver ให้เรา



หลังจากนั้นโปรแกรมก็จะให้เราทำการ รีสตาทโดยการกด OK เส็ดแล้ว



 


Blue Screen of Dead จอสีฟ้าตัวหนังสือสีขาว

Blue Screen of Dead จอสีฟ้าตัวหนังสือสีขาว
สาเหตุที่ทำให้เกิด BSOD ไล่จากเล็กน้อยจนถึงขั้นสาหัสได้ 5 สาเหตุใหญ่ๆ
1. สาเหตุจากโปรแกรม (Software Errors) โปรแกรมบางอย่างที่นำมาติดตั้งบน เครื่องอาจจะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะโปรแกรมจำพวก Spy ware, virus หรือไม่ก็โปรแกรมที่เป็น BETA TEST ที่ให้ ดาวน์โหลดฟรีทั้งหลาย นั่นแหละตัวดี
2. สาเหตุมาจากฮาร์ดแวร์ (Hardware Errors) ฮาร์ดแวร์เป็นปัจจัยที่ทำให้เครื่องเกิดปัญหาได้ หากฮาร์ดแวร์ตัวนั้นไม่สามารถทำงานร่วมกับวินโดวส์ XP ได้อย่างสมบูรณ์
3. สาเหตุจากการติดตั้งโปรแกรม (In- stallation Errors) หากกำลังติดตั้งโปรแกรม เพื่อใช้ดูหนัง แต่เกิดไฟดับก่อนที่จะติดตั้งเสร็จ แถมเครื่องคุณยังไม่ได้ติด UPS ซะ ด้วย ในการติดตั้งนั้นย่อมมีไฟล์ของโปรแกรมบางส่วนถูกก๊อปปี้ลงบนฮาร์ดดิสก์ของ เราแล้ว ไฟล์เหล่านี้ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่องของคุณเกิดปัญหาได้
4. สาเหตุจากการบูตเครื่อง (Startup Errors) เมื่อกดปุ่ม power เพื่อเปิดเครื่อง ระบบจะมีลำดับขั้นตอนในการ Detect อุปกรณ์ สามอย่างก่อนก็คือ การ์ดจอ จากนั้นก็มาที่ แรม แล้วก็ ฮาร์ดดิสก์ ตามลำดับ และโหลดไฟล์จากฮาร์ดดิสก์ไปเก็บไว้ที่แรม หากขั้นตอนใดมีการผิด พลาด ก็จะทำให้เกิด BSOD ได้เช่นกัน
5. สาเหตุที่นอกเหนือจากที่กล่าวมา (Intermittent Errors) เป็นปัญหาที่ยากลำบากที่สุดในการแก้ไข เพราะอาจจะเกิดจากสาเหตุอะไรก็ได้ เช่น ความร้อนของซีพียู หรือปัญหาเกี่ยวกับแรม

สรุปปัญหา Blue Screen
ปัญหาBlue Screen นั้นส่วนมากนั้นจะเกิดจากการผิดพลาดของไดรเวอร์ หรือการทำงานผิดพลาดอันเนื่องจากมาจากไวรัส เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา Blue Screen ควรหมั่นแบ็กอัพค่าคอนฟิกและค่ารีจิสทรีของวินโดว ส์อยู่เสมอ เครื่องมือที่ดีที่สุดก็คือ System Restore ดังนั้นถ้าคุณไม่แน่ใจเรื่องของระบบก่อนลงโปร แกรมหรือไดรเวอร์ใดๆ  ก็ตามให้คุณสั่ง System Restore เสียก่อน เผื่อว่าเกิดปัญหา Blue Screen คุณยังสามารถเข้าเซฟโหมดแล้วสั่งให้โรลแบ็ก ระบบกลับมาได้ หรือในกรณีสุดท้ายที่หนักสุดคือ เกิดจากความผิดพลาดของฮาร์ดแวร์ เช่น แรมเสื่อมสภาพ เพาเวอร์ซัพพลายหมดอายุ ฯลฯ ซึ่งอันนี้คงต้องอาศัยการเปลี่ยนอุปกรณ์เพียงอย่างเดียว แนะนำว่าควรลองถอดเปลี่ยนอุปกรณ์ต้องสงสัยกับเครื่องข้างเคียงก่อน เพื่อสืบหาต้นตอของปัญหาที่แท้จริง
สาเหตุและการแก้ไข Blue Screen
1. (stop code 0X000000BE) Attempted Write To Readonly Memory สาเหตุและแนวทางแก้ไข: อาการนี้เกิดจากการลง driver หรือ โปรแกรม หรือ service ที่ผิดพลาด เช่น ไฟล์บางไฟล์เสีย ไดร์เวอร์คนละรุ่นกัน ทางแก้ไขให้ uninstall โปรแกรมตัวที่ลงก่อนที่จะเกิดปัญหานี้ ถ้าเป็นไดร์เวอร์ก็ให้ทำการ roll back ไดร์เวอร์ตัวเก่ามาใช้ หรือ หาไดร์เวอร์ที่ล่าสุดมาลง (กรณีที่มีใหม่กว่า;) ถ้าเป็นพวก service ต่างๆที่เราเปิดก่อนเกิดปัญหาก็ให้ทำการปิด หรือ disable ซะ
2. (stop code 0X000000C2) Bad Pool Caller สาเหตุและแนวทางแก้ไข: ตัวนี้จะคล้ายกับตัวข้างบน แต่เน้นที่พวก Hardware คือเกิดจากอัฟเกรดเครื่องพวก Hardware ต่าง เช่น ram ,harddisk การ์ดต่างๆ ไม่ compatible กับ XP ทางแก้ไขก็ให้เอาอุปกรณ์ที่อัฟเกรดออก ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ให้ลงไดร์เวอร์ หรือ อัฟเดท firmware ของอุปกรณ์นั้นใหม่ และคำเตือนสำหรับการจะอัฟเดท ให้ปิด anti-virus ด้วยนะครับ เดียวมันจะยุ่งเพราะพวกโปรแกรม anti-virus มันจะมองว่าเป็นไวรัส
3. (stop code 0X0000002E) Data Bus Error สาเหตุและแนวทางแก้ไข: อาการนี้เกิดจากการส่งข้อมูลที่เรียกว่า BUS ของฮาร์แวร์เสียหาย ซึ่งได้แก่ ระบบแรม, Cache L2 ของซีพียู, เมมโมรีของการ์ดจอ, ฮาร์ดดิสก์ทำงานหนักถึงขั้น error (ร้อนเกินไป;) และเมนบอร์ดเสีย
4. (stop code 0X000000D1) Driver IRQL Not Less Or Equal สาเหตุและแนวทางแก้ไข: อาการไดร์เวอร์กับ IRQ(Interrupt Request ) ไม่ตรงกัน การแก้ไขก็เหมือนกับ error ข้อที่ 1
5. (stop code 0X0000009F) Driver Power State Failure สาเหตุและแนวทางแก้ไข: อาการนี้เกิดจาก ระบบการจัดการด้านพลังงานกับไดรเวอร์ หรือ service ขัดแย้งกัน เมื่อคุณให้คอมทำงานแบบ"Hibernate" แนวทางแก้ไข ถ้าวินโดวส์แจ้ง error ไดร์เวอร์หรือ service ตัวไหนก็ให้ uninstall ตัวนั้น หรือจะใช้วิธี Rollback driver หรือ ปิดระบบจัดการพลังงานของวินโดวส์ซะ
6. (stop code 0X000000CE) Driver Unloaded Without Cancelling Pending Operations
สาเหตุและแนวทางแก้ไข: อาการไดร์เวอร์ปิดตัวเองทั้งๆ ทีวินโดวส์ยังไม่ได้สั่ง การแก้ไขให้ทำเหมือนข้อ 1
7. (stop code 0X000000F2) Hardware Interrupt Storm สาเหตุ และแนวทางแก้ไข: อาการที่เกิดจากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น USB หรือ SCSI controller จัดตำแหน่งกัน IRQ ผิดพลาด สาเหตุจากไดร์เวอร์หรือ Firmware การแก้ไขเหมือนกับข้อ 1
8. (stop code 0X0000007B) Inaccessible Boot Device สาเหตุและแนวทางแก้ไข: อาการนี้จะมักเจอตอนบูตวินโดวส์ จะมีข้อความบอกว่าไม่สามารถอ่านข้อมูลของไฟล์ระบบหรือ Boot partitions ได้ ให้ตรวจฮาร์ดดิสก์ว่าปกติหรือไม่ สายแพหรือสายไฟที่เข้าฮาร์ดดิสก์หลุดหรือไม่ ถ้าปกติดีก็ให้ตรวจไฟล์ Boot.ini อาจจะเสีย หรือไม่ก็มีการทำงานแบบ Multi OS ให้ตรวจดูว่าที่ไฟล์นี้อาจเขียน Config ของ OS ขัดแย้งกัน
อีกกรณีหนึ่งที่เกิด error นี้ คือเกิดขณะ upgrade วินโดวส์ สาเหตุจากมีอุปกรณ์บางตัวไม่ Compatible ให้ลองเอาอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นหรือคิดว่ามีปัญหาออก เมื่อทำการ upgrade วินโดวส์ เรียบร้อย ค่อยเอาอุปกรณ์ที่มีปัญหาใส่กลับแล้วติดตั้งด้วยไดร์ เวอร์รุ่นล่าสุด
9. (stop code 0X0000007A) Kernel Data Inpage Error สาเหตุและแนวทางแก้ไข: อาการนี้เกิดมีปัญหากับระบบ virtual memory คือวินโดวส์ไม่สามารถอ่านหรือเขียนข้อมูลที่ swapfile ได้ สาเหตุอาจเกิดจากฮาร์ดดิสก์เกิด bad sector, เครื่องติดไวรัส, ระบบ SCSI ผิดพลาด, RAM เสีย หรือ เมนบอร์ดเสีย
10. (stop code 0X00000077) Kernel Stack Inpage Error สาเหตุและแนวทางแก้ไข: อาการและสาเหตุเดียวกับข้อ 9
11. (stop code 0X0000001E) Kmode Exception Not Handled สาเหตุและแนวทางแก้ไข: อาการนี้เกิดการทำงานที่ผิดพลาดของไดร์เวอร์ หรือ service กับ หน่วยความจำ และ IRQ ถ้ามีรายชื่อของไฟล์หรือ service แสดงออกมากับ error นี้ให้ทำการ uninstall โปรแกรมหรือทำการ Roll back ไดร์เวอร์ตัวนั้น ถ้ามีการแจ้งว่า error ที่ไฟล์ win32k สาเหตุเกิดจาก การ control software ของบริษัทอื่นๆ (Third-party) ที่ไม่ใช้ของวินโดวส์ ซึ่งมักจะเกิดกับพวก Networking และ Wireless เป็นส่วนใหญ่ Error นี้อาจจะเกิดสาเหตุอีกอย่าง นั้นคือการ run โปรแกรมต่างๆ แต่หน่วยความจำไม่เพียงพอ
12. (stop code 0X00000079) Mismatched Hal สาเหตุและแนวทางแก้ไข: อาการนี้เกิดการทำงานผิดพลาดของ Hardware Abstraction Layer (HAL) มาทำความเข้าใจกับเจ้า HAL ก่อน HAL มีหน้าที่เป็นตัวจัดระบบติดต่อระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอ ฟท์แวร์ว่าแอปพลิเคชั่นตัวไหนวิ่งกับอุปกรณ์ตัวไหนให ้ถูกต้อง ยกตัวอย่าง คุณมีซอฟท์แวร์ที่ออกแบบไว้ใช้กับ Dual CPU มาใช้กับเมนบอร์ดที่เป็น Single CPU วินโดว์ก็จะไม่ทำงาน วิธีแก้คือ reinstalls วินโดวส์ใหม่ สาเหตุอีกประการการคือ ไฟล์ที่ชื่อ NToskrnl.exe หรือ Hal.dll หมดอายุหรือถูกแก้ไข ให้เอา Backup ไฟล์ หรือเอา original ไฟล์ที่คิดว่าไม่เสียหรือเวอร์ชั่นล่าสุดก๊อปปี้ทับไฟล์ที่เสีย
13. (stop code 0X0000003F) No More System PTEs สาเหตุและแนวทางแก้ไข: อาการนี้เกิดจากระบบ Page Table Entries (PTEs) ทำงานโดย Virtual Memory Manager (VMM) ผิดพลาด ทำให้วินโดวส์ทำงานโดยไม่มี PTEs ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวินโดวส์ อาการนี้มักจะเกิดกับการที่คุณทำงานแบบ multi monitors